เมื่อตอนที่ยังดำน้ำไม่เป็น เคยนั่งเรือออกไปตกปลากลางทะเล แล้วปลาไม่กินเหยื่อ จึงนั่งคิดไปเรื่อยว่าพวกปลามันทำอะไรกันอยู่ ที่ตรงนี้มีปลาหรือเปล่า ข้างล่างใต้ผืนน้ำนั้นเป็นอย่างไร กัปตันเรือก็อ้างโน่นอ้างนี่ โทษดินฟ้าอากาศไปตามเรื่องตามราว เครียดกันทั้งลำเรือ ไม่ว่าจะกัปตันหรือแขกผู้เช่าเรือมาตกปลา เราก็สงสัยกัปตันเรือคงจะจอดเรือ ไม่ตรงหมายไม่ตรงกองหิน แล้ว มาทำเป็นแก้ตัว
ต่อมาพอที่จะเก็บเงินชื้อเรือลำเล็กๆเป็นของตนเอง เป็นกัปตันขับเรือเอง แต่ก็รู้เรื่องเกี่ยวกับกองหินใต้น้ำน้อยมาก อย่ากระนั้นเลยต้องหาวิธีลงไปดูให้รู้แจ้งเห็นจริง นั่นคือวันแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของการที่คิดว่า จะเข้ามาเรียนดำน้ำ จากสิ่งที่เคยคิดว่าจะนำความรู้มาใช้ประโยชน์ ในการลงไปดำสำรวจตรวจสอบกองหินใต้น้ำ เพื่อจอดเรือตกปลา ก็เปลี่ยนมาเป็นความหลงไหลในโลกอีกโลกหนึ่ง ที่มีความงดงามและแปลกตา จึงเป็นที่มาของกิจกรรมที่ทำ คือ เป็นนักดำน้ำ
ในส่วนนี้ขอแนะนำหลักสูตรการเรียนดำน้ำ ที่ได้เรียบเรียงมาสำหรับผู้ที่สนใจเริ่มแรก ที่จะต้องเรียนรู้เพื่อเอาฤกษเอาชัย ในการที่จะลงไปดำน้ำ หลักสูตร OPEN WATER DIVER COURSE เป็นหลักสูตรการเรียนดำน้ำระดับสากล เริ่มแรกของผู้ที่สนใจจะดำน้ำแบบSCUBA ที่จะต้องเรียน เมื่อเรียนจบหลักสูตรนี้แล้ว ทางองค์กรผู้ที่เป็นเจ้าของหลักสูตร ซึ่งมีอยู่หลายองค์กรในโลกใบนี้
แต่ในที่นี้ขอพูดถึงองค์กรดำน้ำชื่อดังระดับโลก PADI ( PROFESSIONAL ASSOCIATION OF DIVING INSTRUCTORS ) ของประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นองค์กรที่นิยม สำหรับวงการดำน้ำในเมืองไทย จะเป็นผู้ออกบัตรประจำตัวนักดำน้ำ (C-CARD) ให้กับผู้ที่เรียนจบหลักสูตร เพื่อเป็นใบเบิกทางในการเข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำ ได้ทุกแห่งทั่วโลก "ตลอดชีพ"
ตัวอย่างบัตรประจำตัวนักดำน้ำ ( C-CARD ) ระดับขั้นต่างๆ ของ PADI
คุณสมบัติของผู้ที่จะเรียนดำน้ำ
-อายุ 10 ปีขึ้นไป-มีสุขภาพสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง-สามารถว่ายน้ำได้ดีหรือพอที่จะว่ายน้ำได้
โครงสร้างหลักสูตร ที่จะต้องเรียน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. การเรียนทฤษฏี เป็นการเรียนในห้องเรียน รวมบทเรียนทั้งสิ้น 5 ส่วน ประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำ , วิทยาศาสตร์ใต้น้ำ , เทคนิคการควบคุมการลอยตัว , การเคลื่อนที่ใต้น้ำ , การแก้ปัญหาใต้น้ำและบนผิวน้ำ , โรคที่เกี่ยวข้องกับการดำน้ำ , การวางแผนการดำน้ำ , การคำนวนเวลาการดำน้ำแบบสันทนาการ(ท่องเที่ยว)
2. การฝึกปฏิบัติในสระว่ายน้ำ จะทำการฝึกทั้งสิ้น 5 ไดฟ์ (Dive) ประกอบด้วยการฝึกเรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำ , เทคนิคการลอยตัวในสภาพไร้น้ำหนักใต้น้ำ , การใช้อุปกรณ์หายใจขณะอยู่ใต้น้ำ , การแก้ไขปัญหาในการดำน้ำในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น , สัญญาณมือสำหรับการดำน้ำ เนื่องจากการอยู่ใต้น้ำ เราคงจะไม่มาพูดคุยกันได้เหมือนอยู่บนบก
3. การฝึกเรียนปฏิบัติภาคทะเล รวมการฝึกดำน้ำจริงในทะเลทั้งสิ้น 4 ไดฟ์ (Dive) โดยเป็นการนำเอาความรู้และทักษะที่ได้ผ่านการเรียนรู้มาแล้ว มาใช้ในสถานการณ์จริง ในครั้งนี้ก็เหมือนกับการสอบภาคสนาม ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เราจะเห็นความสวยงาม ของใต้ผืนน้ำและจะหลงไหลจนติดอกติดใจ
สำหรับระยะเวลาในการเรียนรู้
- ภาคทฤษฏี 8-10 ชั่วโมง
- ภาคปฏิบัติในสระว่ายน้ำ 8-10 ชั่วโมง
- ภาคปฏิบัติภาคทะเล 2 วัน
สำหรับอุปกรณ์การเรียน เช่น หน้ากาก (MASK) ท่อหายใจที่ผิวน้ำ (SNORKEL) ตีนกบ (FINS) ชุดควบคุมการลอยตัว (B.C.D.) ชุดอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจใต้น้ำ(REGULATOR) ถังอากาศ (TANK) และอื่นๆ ส่วนมากทางสถานที่เรียน จะเป็นผู้จัดเตรียมเอาไว้ให้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักสูตรนี้ก็ประมาณ 10,000 บาท (บวกลบอีกเล็กน้อย) ซึ่งไม่ค่อยจะแตกต่างกันเท่าไร ในแต่ละแห่งที่เรียน
แค่เรียนจบหลักสูตรนี้เท่านั้น ก็สามารถที่จะลงไปสู่โลกใต้ทะเล ที่มีสัตว์ทะเลน้อยใหญ่หลายพันชนิด นับล้านชีวิตรอคอยอยู่แล้ว จึงคิดว่าทั้งเวลาที่เรียนและค่าใช้จ่ายเพียงเท่านี้ ไม่แพงเลย ที่จะได้ทำในสิ่งที่ใช่ว่า คนทุกคนจะได้มีโอกาสทำ
ส่วนการเรียนดำน้ำแบบ SCUBA ยังมีหลักสูตรอื่นๆอีกหลายหลักสูตร พร้อมรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้สูงขึ้นไป จะยังไม่ขอนำมากล่าวถึง เพราะถ้าได้เข้ามาเรียนรู้ในหลักสูตรที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทุกคนก็จะได้ทราบเองและเป็นที่เชื่อได้ว่า ทุกคนก็พร้อมจะต้องเข้ารับการเรียนรู้ในขั้นสูงต่อไปอีกแน่นอน
ผู้ที่สนใจอยากจะเรียนดำน้ำแบบ SCUBA สำหรับสถานที่เรียนข้อมูลมีอยู่มากมาย หาได้ในเว็บไซต์ ต่างๆ หรือเมื่อมีการจัดงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว การจัดงานเกี่ยวกับกิจกรรมดำน้ำ ซึ่งมีจัดกันแทบทุกปี จะมีร้านดำน้ำหรือผู้ที่เป็นครูสอนดำน้ำมาแข่งขันกันเปิดบูท เชิญชวนผู้ที่สนใจมาร่วมเรียนดำน้ำ ให้เลือกเรียนจนแทบจะตัดสินใจไม่ถูกว่า จะเรียนดำน้ำกับผู้ใด ยังไงๆก็เลือกในสิ่งที่คิดว่า " ดีที่สุด " ก็แล้วกัน
เรื่องน่าสนใจแนะนำ : ดำน้ำพัทยาไดฟ์นี้ที่เกาะครก
http://wijarn.blogspot.com/2009/09/blog-post_11.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นได้ เฉพาะผู้ที่มีบัญชี Google